วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เที่ยวฮอกไกโดกันเถอะ!!!


พูดถึง Hokkaido นึกถึงอะไร

        คนไทยนึกถึงฮอกไกโดก็เรื่องหิมะ ความหนาว น้ำแข็ง ชาวไอนุ ปูยักษ์ และทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ฮอกไกโดมีความหนาวเหน็บอย่างนั้นที่ว่าจริงๆ และนานกว่าภาคอื่นๆของญี่ปุ่นอีกด้วย การเดินทางในฮอกไกโดไม่ถึงกับสะดวกรวดเร็วมากเหมือนอยู่โตเกียวหรือเมืองอื่นๆ แต่ก็สามารถไปได้อย่างทั่วถึงแต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย และถึงแม้ที่นี่จะมีอากาศที่หนาวเหน็บ แต่ฮอกไกโดก็มีที่ราบให้เพาะปลูกได้มากมาย ทุ่งกว้างมากมายเหลือเฟือ เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นเหมาะแก่การเพาะปลูก และที่สำคัญอาหารและวัตถุดิบที่มาจากฮอกไกโด “สดและอร่อยพระเจ้า!!” ถ้าจะมาฮอกไกโด สักครั้งในชีวิตล่ะก็ ควรเจียดวันพักผ่อนของชีวิตคุณมาอย่างน้อย 7 วัน จึงจะขึ้นชื่อได้ว่า มาฮอกไกโดอย่างแท้จริง


แผนที่ฮอกไกโด




Sapporo

    Sapporo  เป็นเมืองหลวงของเกาะ Hoakkaido ที่นี่เป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะ รวบรวมเป็นแหล่งรวบรวมการเมือง เศรษฐกิจ  การศึกษา วัฒนธรรมต่างๆไว้มากมาย เรียกได้ว่าใครจะไปจะมาฮอกไกโด ต้องมาตั้งหลักที่ Sapporo นี้ก่อ  เพราะเป็นศูนย์รวมการคมนาคมของเกาะนี้ด้วย เดิมเกาะฮอกไกโดเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไอนุตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จะเห็นได้จากชื่อสถานที่หลายแห่งบนเกาะ เช่น เมืองซัปโปะโระ ก็เป็นภาษาไอนุ
    Sapporo เริ่มมีัชื่อและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จากเทศกาลหิมะ หรือ Snow Festival  หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Yuki Matsuri (ยุกิมัสซึริ)  โดยว่ากันว่า มีความเป็นมาจากนักเรียน 6 คน จากบริเวณใกล้เคียงกันนั้นมาปั้นรูปปั้นด้วยหิมะ ต่างคนต่างปั้นมาประชันโฉมกันว่าใครสวยกว่ากัน ตามประสานักเรียนเท่านั้น ต่อมา มีกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เห็นว่าสนุกดีก็เลยเข้าร่วมปั้นด้วย และกลับมาปั้นขึ้นใหม่ในทุกๆปี และเริ่มดูจะเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น เนื่องจากรูปปั้นหิมะของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ปั้นซะใหญ่ และสวยงาม ทำให้เกิดความสนใจของคนในบริเวณนั้น และเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆปี  และในที่สุดก็กลายเป็นเทศกาลหิมะ เกิดกิจกรรมต่างๆ เช่นการแข่งขั้นการปั้นหิมะ การละเล่นต่างๆ และเริ่มมีบรรดานักปั้นหิมะจากต่างประเทศเข้าร่วมแข่งขั้นจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก นี่ถ้านักเรียนทั้ง 6 คน ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงรู้สึกภูมิใจอย่างมากเลยที่ทำให้เกิดเทศกาลระดับโลกด้วยฝีมือการปั้นของพวกเขา และที่ซับโปโรนี้ เคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูหนาว 1972
     Sapporo ในปัจจุบัน มีชื่อเสียงเป็นเมืองท่องเที่ยว ร้านบะหมี่ญี่ปุ่นหรือราเม็ง โรงเบียร์ซัปโปะโระ และเทศกาลหิมะซัปโปะโระที่จัดขึ้นทุกปีราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

โรงงานเบียร์ซัปโปโร






Clock Tower หอนาฬิกาญี่ปุ่น



Otaru

     Otaru อดีตเป็นเมืองท่านและศูนย์กลางการค้าและการเงินของฮอกไกโด ดังนั้นจึงมีอาคารที่สำคัญๆต่างๆมากมาย เช่นตึกเก่าที่เคยใช้เป็นธนาคารกลางของญี่ปุ่น สาขาฮอกไกโด และส่วนย่านท่าเรือที่มีคลองโอตะรุผ่านสำหรับเทียบเรือหรือโกดังนั้นเป็นโกดังสินค้าเก่า ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหาร ด้วยโกดังเก่าจำนวนมากและอาคารสำนักงานอดีตโดยการจัดส่งสินค้าและ บริษัท การค้าทำให้ศูนย์กลางของเมืองซัปโปโร ทำให้ชวนให้นึกถึงทศวรรษที่ผ่านมาว่ามีความรุ่งเรืองมากขนาดไหน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวพากันไปเดินชมกันมาก


    Oaru นั้นอยู่ไม่ไกลไปจาก Sapporo มากนัก โดยห่างกันประมาณ 40 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 40 นาที โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮอกไกโด
    Otaru นั้นได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ที่สามารถเลือกเพลงเป็นของตัวเองได้ พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่โด่งดังอีกด้วย


Otaru Orgel Museum พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี






Asashikawa

      Asahikawa เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด และเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวจับใจที่สุดของฮอกไกโดอีกด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาที่ตำแหน่งที่ตั้งของการจัดงานเทศกาลหิมะที่กำเนิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้ในทุกปีราวๆเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารกองทำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นประจำเกาะฮอกไกโด และเป็นศูนย์รวมต่างๆอีกมากมาเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่กลางเกาะพอดิบพอดี


Asahikawa Ramen Village


Furano

    Furano (富良野) นับว่าเป็นเมืองอันดับต้นๆสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาติอื่นๆค่ะ เป็นดินแดนแห่งดอกไม้งามใครที่มาฮอกไกโดถ้าไม่มาที่ Furano ถือว่ามาไม่ถึงฮอกไกโด ไม่น่าเชื่อว่าความเลื่องชื่อเกี่ยวกับความสวยงามของการปลูกต้นไม้โดยเฉพาะดอกลาเวนเดอร์ โดยให้สีเรียงกันเป็นสายรุ้ง เล่นกันเป็นท้องทุ่งสลับสีกันได้อย่างลงตัว ถ่ายรูปลงเฟสปุ๊บ! ต้องร้องสุโค่ย! กันไปให้งงงวยไปตามๆกัน จากปากต่อปากทำให้ผู้คนหลั่งไหลจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮ็อตฮิตติดอันดับโลกได้ง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อเลยใครจะมาดูให้เต็มตาและสวยที่สุดในรอบปีคงต้องเป็นเดือนกรกฏาคม เมื่อทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในบาน ในช่วงฤดูหนาว, Furano จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมารวมตัวกันที่นี่โดยไม่ได้นัดหมาย

ลักษณะภูมิประเทศ Furano

     เต็มไปด้วยทุ่งกว้าง โดยมีภูเขาโอบล้อมอยู่หลายลูก เช่น Tokachi dake ,Ashibetsu dake, Furano-Nishi dake เป็นต้น ทำให้อากาศของ Furano นี้มีความแต่กต่างกันมากระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาว เมือง

ช่วงเวลาท่องเที่ยว Furano 

     ที่นี่ไม่ใช่ชุมชนเมืองแต่กลับมีสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มดอกไม้ และโรงงานสำหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวของของท้องถิ่น อย่างไวน์ ชีส ไอศครีมลาเวนเดอร์ และสารพัดของใช้จากดอกลาเวนเตอร์
  • ในหน้าหนาว เนื่องมาจากFurano เป็นทุ่งกว้าง ดังนั้นแล้วจะขาวโพลนไปด้วยหิมะ กว้างสุดลูกหูลูกตา กีฬาพวกสกี สโนว์บอร์ดนั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของคนที่นี่ ถ้าใครมาที่นี่หน้าหนาวรับรองได้ว่าจะได้สนุกกับกีฬาเหล่านี้แน่นอน
  • ฤดูร้อนและใบไม้ร่วง จะเต็มไปด้วยการเดินทางชมดอกไม้ ตาม ถนนสายดอกไม้ (ถนนสาย 237) ปั่นจักรยานเช่า ไปเรื่อยๆ หรือใครสามารถขับรถได้ก็ตามสบาย สวยเป็นพิเศษหน่อยก็แถว Kimi-Furano Naka-Furano จะมีแปลงดอกไม้เยอะมากเป็นพิเศษ
และอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกันนั้นคือ Biei (美瑛) เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ไม่ห่างกันมาก ก็น่าสนใจแม้แพ้กันเลย

การเดินทางมา Furano

รถไฟ จากสถานี Sapporo นั่ง JR -Furano Lavender Express ลงที่ สถานี Furano ระยะเวลา 2 ชั่วโมง (มีเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น)
รถบัส จาก Asahikawa Airport ไปที่ Biei (15 นาที, 360 yen)  และถ้าลง Furano (60 นาที, 750 yen)



Furano Flower Fields สวนดอกไม้ฟุราโนะ


 Blue pond บึงสีฟ้าในเมืองบิเอะ








แค่นี้เนอะ =w=
ไว้เจอกันโอกาสหน้าจ้าาาาาาาา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น